หลายๆท่านอาจจะเคยได้ยินคำ ๆ นี้มากันบ้างแล้ว แต่ก็มีอีกหลาย ๆ ท่านเช่นกันที่พึ่งจะรู้จักกับคำ ๆ นี้
Infopreneur เป็นการรวมคำระหว่าง Information + Entrepreneur
โดยที่ความหมายของแต่ละคำ คือ
– Information = ข้อมูล ข่าวสาร
– Entrepreneur = ผู้ประกอบการ
ดังนั้น Infopreneur = การเป็นผู้ประกอบการที่เชี่ยวชาญเรื่องข้อมูลเฉพาะด้าน
ถ้าจะให้เข้าใจง่ายที่สุด ให้เรานึกถึง “ครูสอนพิเศษ” ที่เราอาจจะเคยไปลงเรียน เพื่อเตรียมสอบวิชาสามัญต่างๆในสถานศึกษา
เพียงแต่เปลี่ยนจากวิชาสามัญ ที่ใช้สอบ มาเป็น “วิชาที่สอนให้ไปทำมาหากินได้” หรือ “วิชาที่ทำให้คนอื่นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”
เพราะในมหา’ลัยชีวิต นั้น ยังคงมีเรื่องราวต่างๆให้เรียนรู้อย่างมากมายมหาศาล มากกว่าสมัยตอนที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ซะอีก
ยกตัวอย่าง อาชีพ Infopreneur เช่น
– สอนว่ายน้ำ
– สอนใช้โปรแกรม PowerPoint, Excel, Word
– สอนการเขียนหนังสือ
– สอนทำเว็บไซต์
– สอนการเป็นนักพูด
– สอนการทำธุรกิจ
– สอนการทำการตลาด
– สอนทำอาหาร
– สอนวาดรูป
– สอนการเล่นไพ่ทาโร่ท์
– สอนซ่อมกระเป๋า
– ฯลฯ
มีเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด
แต่ถ้าหากเราสังเกตดี ๆ เราจะพบว่า สิ่งที่ Infopreneur ได้ทำการสอนนั้น ส่วนใหญ่ เป็นทักษะที่ผู้สอนมีความชำนาญหรือได้มีการศึกษาเรียนรู้มาเป็นเวลานานอยู่แล้ว นั่นหมายถึง มันแทบไม่มีต้นทุนในการสอนเลย เพราะคนที่สอนนั้น มีทักษะที่ตัวเองถนัดติดตัวมาอยู่ล้ว
แต่ปัญหาที่พบจากคนส่วนใหญ่ก็คือ…. คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า ทักษะที่ตนเองมีอยู่นั้น มันสามารถนำมาประกอบอาชีพและเพิ่มรายได้ ได้อีกทางหนึ่ง โดยที่ต้นทุนแทบจะไม่มีเลย
ดังนั้นการบ้านของเราก็คือ
– ค้นหาว่าตัวเราเองมีความถนัดหรือเชี่ยวชาญด้านใดมากกว่าคนรอบๆตัวเป็นพิเศษ แล้วลองค้นหาบน Google ดูว่ามีคนเปิดสอนอยู่หรือไม่ และถ้ามี นั่นหมายถึง คุณเองก็สามารถสอนคนอื่นได้เช่นกัน
– แต่ถ้ายังไม่มี วิธีเริ่มต้นไม่ยากจนเกินไปก็คือ ให้ศึกษาเรื่องนั้นๆให้ท่องแท้ โดยอาจจะมาจากการ อ่านหนังสือ, เข้าสัมมนา, ลงเรียน หรือหาวีดีโอจาก Youtube ดู แล้วก็ค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆ จนถึงระดับที่สามารถสอนคนอื่นได้
การเป็น Infopreneur ข้อดีคือ
– ต้นทุนต่ำ
การเป็น Infopreneur ข้อเสียก็มีเหมือนกัน คือ
– จะต้องเป็นคนที่ชอบการเรียนรู้ ต้องพัฒนาตัวเองอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะอย่าลืมว่า อาชีพ Infopreneur มีหน้าที่สอนให้คนอื่น “มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”