เดิมที ผู้ประกอบการหน้าใหม่มักจะผิดพลาดในการเริ่มต้นการขายสินค้าและบริการ (รวมถึงตัวผมเองด้วย) ที่คิดเอาเองว่า ถ้าเราสร้างสินค้าและบริการที่ดีนั้นๆ เอามาขาย มันต้องขายได้แน่นอน เพราะของมันดีมีคุณภาพ
แต่เปล่าเลย เพราะคนที่จะเข้ามาเป็นลูกค้าเรานั้น เขาไม่ได้สนใจเลยว่า ของจะดีหรือไม่ดี แต่พวกเขาสนใจแค่เพียงว่า สินค้าและบริการนั้นๆ มันตอบสนองต่อความต้องการของเขาต่างหาก
แต่เดิมที ขั้นตอนที่ธุรกิจที่ล้มเหลวใช้ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ คือ
- ค้นหาไอเดียในการสร้างสินค้าและบริการ
- สร้างสินค้าและบริการขึ้นมา
- สร้างแบรนด์ให้น่าเชื่อถือ
- เริ่มต้นหาลูกค้า
จะเห็นได้ว่าเอาสินค้าที่อยากจะขายมาก่อนแล้วค่อยหาลูกค้า ทั้งที่จริงๆ แล้ว คนที่จ่ายเงินให้ธุรกิจของเราอยู่รอดก็คือลูกค้า ดังนั้นจำให้ขึ้นใจได้เลยว่า ถ้าไม่มีลูกค้าซื้อของ(ต่อให้ของดีเพียงใดก็ตาม) ก็ไปไม่รอดอยู่ดี
ดังนั้นสเต็ปที่ควรจะเป็นก็คือ 4 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 : ค้นหาไอเดียในการสร้างสินค้าและบริการ
ธุรกิจมักเริ่มต้นจากไอเดีย มองเห็นโอกาส และปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้คน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วธุรกิจที่เกิดขึ้นก็มักจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาหรือเติมเต็มให้กับผู้คนเพื่อซื้อสินค้าและบริการ
ขั้นตอนที่ 2 : เริ่มต้นหาลูกค้า
ทีนี้ก็ถึงเวลาที่จะนำไอเดียไปเสนอต่อกลุ่มผู้สนใจ ว่ามีความต้องการในสินค้าหรือบริการที่เรากำลังจะสร้างขึ้นหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่า จะมีคนซื้อจริงๆ โดยในปัจจุบัน เทคนิคการ Pre-order นั้น สามารถช่วยให้เราทดสอบในขั้นตอนตรงนี้ได้ เพราะมีออเดอร์จากลูกค้ามาแน่ๆ แถมยังมีเงินทุนที่ลูกค้าโอนมาก่อนได้รับสินค้า เพื่อที่เราจะได้นำไปสร้างสินค้าต่อไป
ขั้นตอนที่ 3 : สร้างสินค้าและบริการขึ้นมา
และเมื่อลองใช้เทคนิคการ Pre-order จะทำให้เรามีเงินทุน นำไปต่อยอดเพื่อสร้างสินค้าและบริการขึ้นมา เพื่อตอบสนองต่อลูกค้า
ขั้นตอนที่ 4 : สร้างแบรนด์ให้น่าเชื่อถือ
จากนั้น ให้เริ่มต้นสร้างแบรนด์ เพื่อที่จะทำให้สินค้าขายได้ดีขึ้นและขายได้นานขึ้น
ดังนั้นถ้าเราไม่หาลูกค้าไว้ก่อนสร้างสินค้าหรือบริการ นอกจากของอาจจะขายไม่ออกแล้ว ที่เสียไปแน่ๆ ก็คือเวลาและทรัพยากรต่างๆ ที่เราต้องทุ่มไปในการผลิตสินค้าหรือบริการ ที่ไม่มีคนต้องการด้วยซ้ำไป
Resources
- หนังสือ all in startup