ความร่ำรวยไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน ความร่ำรวยสงวนไว้เฉพาะบางคนเท่านั้น ไม่งั้นทุกคนก็คงรวยกันหมดแล้วหล่ะ คนธรรมดาคนทั่วไป ใคร ๆ ก็รวยได้ โดยไม่ต้องพยายามอะไรเลย เงินทองหาง่าย ไม่มีคนจน ชีวิตไม่มีความลำบาก เพราะทุกคนมีเงินพอสำหรับค่าใช้จ่ายและสิ่งที่อยากได้
บางคนพยายามทำงานหนัก ทุ่มเททุกอย่างในงานที่ทำ แต่ทำไมจึงไม่รวยซักที
บางครั้งเราเองก็พลาดบางอย่างไป บางครั้งเราอาจมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับเรื่องเงิน รายได้ และความร่ำรวย
อยากผอม หุ่นดี ไปถามคนอ้วนหุ่นแผละ เขาก็คงบอกคุณอย่างเต็มปากไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร ต้องถามคนหุ่นดี ถ้าอยากหุ่นดี
ความร่ำรวยก็เช่นกัน อยากรวยก็ถามคนรวย มาเรียนรู้ทักษะที่คนรวยหรือเศรษฐีเขามีและทำมันอยู่เป็นประจำเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองอย่างไร
เห็นโอกาสทำเงินเสมอ
ความรวยที่ยั่งยืนไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากการมองเห็นโอกาสที่เป็นไปได้ในการทำเงินด้วยการตอบสนองความต้องการของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นจากธุรกิจหรือการลงทุนในธุรกิจของคนอื่น เศรษฐีมักมองเห็นถึงความเป็นไปได้ของสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ทุกวัน ว่าอันไหนมีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะทำเงินได้
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ เฉพาะคนที่พยายามมองหาโอกาสเท่านั้นจึงจะเห็น การทำธุรกิจหลาย ๆ อย่างมาก่อน ทำให้เห็นจุดอ่อน จุดแข็ง ของแต่ละธุรกิจได้ลึกมากยิ่งขึ้น
การออกไปศึกษา ดูงานธุรกิจของคนอื่น วิเคราะห์โมเดลธุรกิจนั้น ๆ ว่าทำเงินอย่างไร ก็เป็นการฝึกฝนทักษะการมองเห็นโอกาสได้ด้วย
ทำมากกว่าพูด
มีคำบางคำที่ผมเคยได้ยิน “คนเก่งไม่พูด คนพูดไม่เก่ง”
ซึ่งผมเห็นด้วยเพียงครึ่งเดียว
ผมได้พบเจอคนเก่ง ๆ มากมาย คนรวยหลายคน เป็นคนชอบพูด ชอบสื่อสาร ชอบแบ่งปันความรู้ของตัวเองให้คนรอบข้างได้รู้ และนำไปประยุกต์ใช้งานจริงได้
แต่การพูดไปเรื่อย พูดอยู่นั่นแหละว่ามีความคิดดี ๆ อยากทำธุรกิจ อยากลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ แต่ไม่ยอมลงมือทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันได้เลย คนแบบนี้ต่างหากที่เรียกว่า “ดีแต่พูด”
อย่าบอกว่า ไม่มีเงิน ไม่มีเวลา ไม่มีความรู้ ฯลฯ
เรื่องพวกนั้นมันสร้างได้
- ไม่มีเงิน เสนอไอเดียเจ๋ง ๆ ของคุณกับผู้ลงทนซิ
- ไม่มีเวลา ก็บริหารเวลาให้เป็น
- ไม่มีความรู้ ก็อ่านหนังสือ, ฟัง Audio, เข้าสัมมนา, ลงเรียนเพิ่ม, คุยกับคนเก่ง ๆ เพื่อหาความรู้
บางอย่างสามารถลงมือทำได้เลย โดยไม่ต้องเสียเงิน
อย่าหาข้ออ้างเหล่านี้มาขัดขวางทางร่ำรวยของคุณได้
วิสัยทัศน์กว้างไกล
สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ คือ สิ่งที่เศรษฐีมองหาและลงทุนกับมัน ยิ่งใครกระโดดเข้าไปสร้างมันขึ้นมาเป็นเจ้าแรกจะกลายเป็นผู้นำตลาด ที่คู่แข่งอาจตามไม่ทันเลยก็ได้ หากสิ่งที่ทำนั้นเป็น Know how บางอย่างที่มีแต่เขาเท่านั้นที่รู้ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการของผู้คนและพร้อมจะเสียเงินซื้อมัน
แต่ต้องยอมรับด้วยว่า “น่าจะเป็นไปได้” คือสิ่งที่ไม่แน่นอน หากคุณคาดการณ์ผิด คุณเจ๊งแน่ ถ้าคุณมองขาดว่ามันเกิดขึ้นแน่นอน ขายได้แน่นอน คุณรวย
ไม่หยุดเรียนรู้
แปลกแต่จริง ยิ่งรวย ยิ่งต้องเรียนรู้เพิ่มขึ้น ยิ่งรวยมาก ยิ่งต้องรู้มากขึ้น เพราะธุรกิจไม่ได้มีแค่การตลาดและการขาย เรื่องกฏหมาย บัญชี การบริหารงาน การขนส่ง ฯลฯ ก็เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจที่ต้องเรียนรู้และทำให้เป็น เพื่อสามารถสั่งงาน ถ่ายทอดงานให้คนอื่นมาทำงานแทนได้
การเรียนรู้ ไม่ใช่แค่การอ่านหนังสือ, ฟัง Audio, เข้าสัมมนา, ลงเรียนเพิ่ม, คุยกับคนเก่ง ๆ เท่านั้น แต่การเรียนรู้จากการลงมือทำ ลงมือสร้างธุรกิจ เป็นเรื่องสำคัญที่เศรษฐีให้คุณค่ามากที่สุด เพราะไม่มีใครสอนได้ มีแต่เขาเท่านั้นที่เรียนรู้มันได้ Learning by Doing!
ทำงานให้เสร็จ
ใครกันบอกว่ารวยและสบาย ใครกันที่เชื่อแบบนั้น เศรษฐีและคนร่ำรวยต่างมีหน้าที่ มีงานที่ต้องรับผิดชอบ มีบริษัทฯ ที่ต้องบริหารงาน มีเรื่องมากมายให้ทำ
จะว่าไปแล้วเขาก็เป็นพนักงานคนหนึ่งของบริษัทฯ ตัวเองนั่นแหละ ต้องเข้าออฟฟิตเพื่อดูแลงาน เซ็นเอกสาร แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่มีมาไม่เว้นแต่ละวัน
สิ่งที่เป็นงานต้องทำ ก็คือต้องทำ ต้องเสร็จ ก็คือต้องเสร็จ เพราะงานบางอย่างก็มีแต่เจ้าของบริษัทเท่านั้นที่ทำได้ เช่น เซ็นใบสั่งซื้อสินค้า เซ็นใบเบิกเงินเดือนพนักงาน เซ็นเช็คสั่งจ่ายเงินให้ Supplier ฯลฯ อาจจะมีคนทำแทนในบางเรื่อง แต่เจ้าของบริษัททุกคนก็ต้องเข้าไปตรวจสอบความถูกต้องด้วย
จ้างคนเก่งมาช่วยงาน
ไม่มีใครจ้างพนักงานขายที่ทำกำไรให้บริษัทฯ เท่ากับเงินเดือนของพนักงานคนนั้น หรือในตำแหน่งอื่น ๆ ที่สร้างงานได้ไม่เท่าที่บริษัทฯ คาดหวัง
ในฝั่งของลูกจ้าง คุณอาจจะคิดว่า อยากได้งานดี ๆ สบาย ๆ ไม่ต้องทำอะไรเยอะแยะในแต่ละวัน สิ้นเดือนก็รับเงินเดือน
แต่สำหรับฝั่งนายจ้างหรือเจ้าของธุรกิจย่อมอยากได้งานที่คุ้มค่ามากกว่า แค่จ่ายเงินเดือนให้พนักงานคนนั้น แต่ยังสามารถเหลือกำไรจำนวนมากพอให้บริษัทฯ นำไปจุเจือค่าใช้จ่ายส่วนอื่นด้วย
ดังนั้นเศรษฐีจะยอมจ่ายแพงเพื่อได้พนักงานชั้นดี มาทำงานให้พวกเขา แม้ว่าอาจจะเป็นค่าตอบแทนสูงมาก แต่เมื่อเทียบกับรายได้ที่พนักงานชั้นดีเหล่านั้นทำให้กับบริษัทฯ มันคุ้มค่ามากกว่า
สรุป
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนรวยเข้าจึงรวยขึ้นทุกวัน เพราะนอกจากเทคนิคการบริหารขั้นเทพแล้ว ทักษะความสามารถส่วนตัวก็เป็นเรื่องสำคัญทำให้เหล่าเศรษฐีทั้งหลายสามารถเพิ่มความมั่งคั่งให้กับตัวเอง สามารถขยายธุรกิจไปหลาย ๆ ธุรกิจได้
หากคุณเป็นพนักงาน คุณต้องทำตัวและพัฒนาความสามารถให้มากพอ เพื่อเป็น “พนักงานชั้นดี” ที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ จำนวนมาก หรือแม้แต่การลดค่าใช้จ่ายบางอย่างให้บริษัทฯ สามารถประหยัดต้นทุนได้ คุณก็มีโอกาสได้ทำงานที่ได้ค่าตอบแทนสูง ๆ ตามที่คุณต้องการ
บริษัทยุคให้ให้อิสระในการคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ลิงก์ไปบทความ Line
ความร่ำรวยหรือเงินทองไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขา สำหรับเรา ๆ ท่าน ๆ ลองไปฝึกฝนทักษะเหล่านี้ให้ชำนาญจนกลายเป็นนิสัยกันดู มันไม่ได้ทำให้คุณร่ำรวยขึ้นมาทันที แต่เชื่อเถอะว่าความคิดและทักษะเหล่านี้จะพัฒนาจนสามารถต่อยอดทำเงินได้ในอนาคตแน่นอน