เมื่อเวลาผ่านเลยไป.. เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต ผ่านการลองผิดลองถูกมานับไม่ถ้วน และได้แต่คิดว่ามันคงจะดีถ้าเราสามารถย้อนเวลาไปบอกตัวเองในอดีตได้
อย่างไรก็ดีบทเรียนสำคัญในชีวิตนี้คงไม่สูญเปล่าไปถ้าได้รับการส่งต่อไปยังคนรุ่นใหม่ หรือคนที่กำลังเผชิญกับสิ่งที่เราเคยผ่านพ้นมา และสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์ควรค่าแก่การบอกต่อครับ
1.เวลาเป็นสิ่งสำคัญ
สิ่งที่คนเรามักจะใช้อย่างฟุ่มเฟือยที่สุด กลับไม่ใช่เงิน แต่เป็นเวลาที่มีค่าเหนือสิ่งอื่นใด มนุษย์มีเวลาในชีวิตประมาณสองหมื่นกว่าวัน ซึ่งดูเหมือนเยอะ แต่ถึงตอนนี้ให้คุณลองคำนวณดูว่าใช้ไปทั้งหมดกี่วันแล้ว จะรู้ว่าความจริงมันไม่ได้เยอะอย่างที่คิด วันเวลาผ่านไปเร็วมาก
คำแนะนำ
คุณคงจะอยากกลับไปใช้เวลาทุกวันอย่างมีค่าที่สุด ทำสิ่งที่ควรทำ เลิกทำอะไรที่ไร้สาระ และเสียเวลาในชีวิตเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการใช้เวลาไปกับการทำให้ชีวิตแย่ลง แต่ ณ ตอนนี้ยังพอมีเวลาเหลืออยู่บ้าง พยายามใช้ชีวิตในแต่ละอย่างคุ้มค่าคุ้มเวลาที่สุดครับ
2.เงินใครว่าไม่จำเป็น
เงินใครว่าไม่สำคัญ เงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตจริง แต่การมีเงินมากเพียงพอก็สามารถอำนวยความสะดวกสบายให้กับชีวิตได้หลายอย่าง การขัดสนซึ่งเงินทองล้วนเป็นบ่อเกิดแห่งความยากลำบากในการดำรงชีวิต การมีเงินอย่างเพียงพอจึงสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ไม่ต้องมากมายล้นฟ้า แต่ต้องพอมีพอใช้
คำแนะนำ
ทุกคนควรพยายามหาเงินให้ได้มากที่สุดในช่วงอายุหนุ่มสาว เพื่อจะใช้ชีวิตตามที่ตนเองต้องการ ไม่ต้องมานั่งเป็นมนุษย์เงินเดือน เป็นลูกจ้างเขาทำงานเช้าจรดเย็น ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง พยายามทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่คนอื่น นำมาประยุกต์ใช้หาเลี้ยงชีพ สร้างความมั่งคั่งจากการบริหารงานเป็น รีบหาเงินให้ได้มากตั้งแต่ยังอายุน้อย อย่าขี้เกียจ จะได้สบายตอนที่อายุมากขึ้น
3.เป้าหมายในชีวิตต้องรีบมี
เชื่อหรือไม่ว่าคนส่วนใหญ่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต ให้คุณลองกลับไปอ่านหนังสือแนวพัฒนาตนเองเกือบทุกเล่ม ต้องมีบทนึงที่เกี่ยวกับเป้าหมายในชีวิต ซึ่งผมคิดว่ามันสำคัญแน่ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครเอามาเขียนเหมือนกันหมด คนที่ไร้ซึ่งเป้าหมายในชีวิตก็ไม่ต่างจากซอมบี้ เดินวนไปวนมาไม่ไปไหนไกล เพราะไม่มีเข็มทิศในชีวิตให้ก้าวเดินตาม
คำแนะนำ
รีบตั้งเป้าหมายในชีวิต และกำหนดแผนการ รีบลงมือทำอย่างด่วน ตลอดระยะทางจะมีอะไรมากมายมาทำให้ไขว้เขวไปจากแผนการเดิม จงยึดมั่นในเป้าหมาย แบ่งเป้าหมายออกไประยะยาว และระยะสั้น คนที่มีเป้าหมายจะประสบความสำเร็จมากกว่าคนไร้เป้าหมายอย่างแน่นอน ฟันธง!
4.รีบเป็นลูกจ้าง มนุษย์เงินเดือน
เฮ้ยไหนบอกว่าเป็นลูกจ้างแล้วไม่มีวันรวย ใช่ครับรวยยากมาก แต่ที่แนะนำให้เป็นลูกจ้างก่อน เพื่อที่จะได้เรียนรู้วิธีการทำงานจากองค์กรใหญ่ เรียนรู้ทักษะการเข้าสังคมกับผู้อื่น เรียนรู้งานจากหัวหน้างานที่เก่ง ๆ พอถึงเวลาเหมาะค่อยลาออกไปตามหาฝันครับ
คำแนะนำ
จงรีบไปสมัครงานกับองค์กรใหญ่ องค์กรระดับชาติยิ่งดี เรียนรู้จากเจ้านายที่เก่ง ๆ เรียนรู้สู้งานมันให้หมด ทำทุกอย่างที่เขาให้ทำ อย่าเกี่ยงงาน สิ่งที่ได้จากการเป็นลูกจ้างประจำไม่ใช่เงิน แต่คือประสบการณ์การทำงานที่หาไม่ได้จากการเป็นเจ้าของกิจการ
5.ถ้าอยากรวยต้องทำธุรกิจ
อันนี้ค่อนข้างแน่ชัดว่าถ้าอยากรวยต้องทำธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะยังไม่เคยเห็นใครรวยจากการเป็นลูกจ้าง เป็นมนุษย์เงินเดือน แต่ก็น่าจะมีพวก CEO ใหญ่ ๆ ซึ่งบริษัทนึงก็คงมีไม่เกินสิบคน คนที่ร่ำรวยที่เห็นได้ในปัจจุบัน ล้วนมาจากการทำธุรกิจต่างๆ เป็นเจ้านายตัวเอง ไม่เกี่ยงว่าต้องอายุมาก แก่ประสบการณ์ แต่อายุน้อยก็ร้อยล้านได้
คำแนะนำ
หลังจากเรียนรู้ทักษะต่างๆจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้ว ให้รีบออกมาทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ลดความเสี่ยงด้วยการทำควบคู่ไปกับงานประจำ ถึงแม้จะล้มเหลวก็ให้รีบเริ่มใหม่ วิธีที่จะร่ำรวยได้คือการทำธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนอื่น
6.รักษาสุขภาพอยู่เสมอ
คงไม่มีประโยชน์ถ้ารวยล้นฟ้า แต่สุขภาพย่ำแย่ เจ็บป่วยออดแอด การดูแลสุขภาพอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งอายุมากขึ้นความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจะแปรผันไปตามกัน เพราะฉะนั้นการออกกำลังกายที่เขาว่าดี และคำแนะนำให้หมั่นออกกำลังกายล้วนจริงแท้แน่นอน
คำแนะนำ
รักษาสุขภาพด้วยการเลือกแต่สิ่งดีๆที่มีประโยชน์รับประทาน และหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ เพราะการออกกำลังกายนอกจากช่วยให้ร่างกายสุขภาพแข็งแรง ยังทำให้สมองสดชื่น กระปรี้กระเปร่าอันเป็นกำลังสำคัญต่อการเผชิญหน้ากับอุปสรรคในชีวิตอีกด้วย
7.เลือกสิ่งที่ใช่แล้วทำให้เก่งที่สุด
คนที่มีความสามารถธรรมดาพื้นๆจะไม่ได้รับการยอมรับอีกต่อไป จะถูกลืนไปกับคนหมู่มาก แตกต่างจากคนที่มีความสามารถระดับสุดยอด เป็นอันตับต้นๆของแต่ละวงการ จะนำมาซึ่งชื่อเสียง และเงินทองมากมาย สามารถเลือกการทำงานตามแต่ละตัวเองต้องการ จะเรื่องมากแค่ไหนก็ไม่มีใครว่าอีกด้วย เพราะพวกเขาต้องมาง้อคุณ
คำแนะนำ
ให้หาสิ่งที่ตัวเองชอบจริงๆ แล้วทุ่มเทแรงกายแรงใจไปกับเจ้าสิ่งนั้น ฝึกฝนตนเองให้มีความสามารถระดับสูง ทำให้ตัวเองเก่งเหนือคนอื่น ชีวิตจะง่ายขึ้น เพราะคุณจะทำสิ่งที่ชอบ ยากที่คนอื่นจะมาเลียนแบบ และมีรายได้เยอะกว่าคนทั่วไป
8.รีบอ่านหนังสือตั้งแต่อายุยังน้อย
หนังสือจำพวกที่ให้ประโยชน์ และความรู้ควรรีบอ่านตั้งแต่เด็ก ถึงแม้จะโตมาใส่แว่นหนาเตอะ แต่ก็สร้างเสริมประสบการณ์ความรู้เพิ่มเติมเร็วกว่าคนอื่น หนังสือที่อยากจะแนะนำน่าจะเป็นพวก 7 habits, Think and Grow Rich, Rich dad Poor Dad เพื่อที่จะเติมทักษะความคิดที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จตั้งแต่ยังเด็ก
คำแนะนำ
จงรีบหาหนังสือพวกนี้มาอ่านโดยด่วน อ่านแล้วอ่านเล่าฝึกฝนทักษะตามที่หนังสือแนะนำ กรอบความคิดที่ได้รับการพัฒนาไปอย่างถูกต้องจะมีส่วนสำคัญกับการใช้ชีวิตอย่างแน่นอน
9.ทัศนคติสำคัญอย่างมาก
การมีทักษะที่ดีไม่เทียบเท่าการมีทัศนคติที่ดี ผมเองเชื่อว่าอย่างนั้น เพราะถึงแม้จะมีทักษะความสามารถที่ดี แต่มีทัศนคติที่แย่ ไม่ชอบพัฒนาตนเองคิดว่าตัวเองมีพรสวรรค์ ท้ายที่สุดแล้วก็จะแพ้คนที่มีทักษะที่ยังไม่ดี แต่มีทัศนคติในการฝึกฝนที่ยอดเยี่ยม
คำแนะนำ
ผมจะให้ความสำคัญกับทัศนคติเป็นอย่างมาก มองโลกแง่บวก ไม่คิดลบ หาความรู้ หาสิ่งดีๆเพื่อทำให้ทัศนคติในการดำเนินชีวิตดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะพวกคำคมของพวกคนที่ประสบความสำเร็จ ถึงแม้จะสั้นแต่มีประโยชน์สำหรับการเสริมสร้างทัศนคติที่ดีเป็นอย่างมาก
10.รักษาและสานต่อความสัมพันธ์
เคยมีการทำแบบสำรวจคนสูงอายุ พบว่าส่วนใหญ่ล้วนเสียดายความสัมพันธ์ที่ต้องแตกร้าว ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และจากผลการศึกษาไม่นานนี้พบว่าสิ่งสำคัญในชีวิตของคนเรา คือการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในครอบครัว การมีความสัมพันธ์ที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่ามัวแต่ทำอย่างอื่นจนละเลยสิ่งสำคัญกับคนรอบข้างไป
คำแนะนำ
จงรักษาสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบกาย โดยเฉพาะคนในครอบครัว อย่าใช้เวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง และพยายามแบ่งเวลาให้กับคนรอบข้างบ้าง เพราะเวลาเดินไปข้างหน้าไม่ถอยหลัง หากเกิดอะไรขึ้นจะได้ไม่นึกเสียใจภายหลัง
11.ฝึกฝนทักษะการขาย และการใช้ภาษาอังกฤษ
มนุษย์ทุกคนล้วนเกี่ยวข้องกับการขายไม่ในทางใดก็ทางหนึ่ง การขาย คือการชักจูงคนอื่นให้คล้อยตาม การพัฒนาทักษะการขายจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะชีวิตของเรานั้นบ่อยครั้งต้องทำให้คนอื่นคล้อยตามสิ่งที่่เราต้องการ นอกจากนี้การใช้ภาษาอังกฤษก็เป็นสิ่งสำคัญ
ถึงแม้จะมีภาษาอื่นๆที่คนแห่ไปเรียน เช่น ภาษาจีน แต่ทั่วโลกยังใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการสื่อสารอยู่ดี หากคุณเก่งภาษาอังกฤษพอประมาณเอาเป็นว่าพอติดต่อสื่อสารได้ ก็ได้เปรียบกว่าคนอื่นมากโขแล้ว
คำแนะนำ
ควรรีบฝึกฝนทักษะการขาย ผ่านงานขายที่จำเป็นต้องใช้ทักษะการพูด การหว่านล้อมต่างๆ และเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ทั้งฟัง พูด อ่านเขียน ตั้งแต่อายุยังน้อย พอโตขึ้นมาจะได้มีความเชี่ยวชาญสูง การได้ทำงานกับคนต่างชาติ ก็จะเพิ่มโอกาสที่จะมี รายได้ที่มากกว่าคนอื่นพอสมควรแล้ว
12.การสร้างคอนเนคชั่นเป็นสิ่งจำเป็น
เราไม่สามารถทำงานด้วยตัวคนเดียวได้ คุณก็ทำไม่ได้ ผมก็ทำไม่ได้ การติดต่อสื่อสารร่วมปฎิสัมพันธ์กับคนอื่น จึงล้วนเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสามารถสร้างคอนเนคชั่นขึ้นมาได้ คุณจะได้รับโอกาส และความรู้มากมายผ่านคอนเนคชั่นที่มีคุณภาพ อย่าปิดปากเงียบเวลาเจอคนอื่น พยายามนำเสนอตัวเอง และพูดคุยอย่างมีกาลเทศะ
คำแนะนำ
ห้ามนั่งปิดปากเงียบคิดว่าตัวเองเจ๋ง คุณควรแนะนำตัวเองกับคนอื่น และพยายามสร้างคอนเนคชั่นไว้ให้มากที่สุด จะมีประโยชน์ หรือไม่มีประโยชน์ก็ตามแต่ วันนึงพวกเขาเหล่านี้อาจหยิบยื่นสิ่งดีๆที่คุณเองไม่เคยคาดคิดไว้ก็เป็นได้
13.ออกไปเผชิญโลกกว้างบ้าง
การไปเที่ยวเป็นการเปิดหูเปิดตาให้กับตัวคุณเอง อีกทั้งยังช่วยเติมพลังให้กับการทำงาน อย่ามัวแต่ขลุกอยู่ในห้องเงียบๆไม่สนใจใคร ออกไปดูโลกภายนอกบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางไปสำรวจโลกยังต่างประเทศ เรียนรู้วัฒนธรรม การดำเนินชีวิต ไม่ใช่ออกไปเผชิญโลกกว้างตามผับตามบาร์ แบบนั้นคงไม่ค่อยจะเป็นประโยชน์สักเท่าไหร่
คำแนะนำ
รีบเก็บเงินสักก้อน พยายามไปต่างประเทศให้ได้ทุกปี ไปแบบไม่ต้องเลิศหรู เอาพอประทังชีวิตได้ แต่เรียนรู้การดำรงชีวิต เอาตัวรอดในต่างแดน สังเกตวัฒนธรรมที่มีประโยชน์ เผื่อจะนำมาต่อยอดไอเดียให้กับตนเองในอนาคต
14.ชีวิตไม่ได้วัดกันที่เกรด
หลายคนตั้งหน้าตั้งตาเรียน เพื่อให้ได้เกรดเฉลี่ยดีๆ โดยที่ไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร คนที่เกรดเฉลี่ยดีจะมีอนาคตที่ดีพอสมควรอย่างแน่นอนผมเห็นด้วย เพราะเวลาที่พวกเราเอาไปเล่น พวกเขามีวินัยในการอ่านหนังสือ เป็นการฝึกฝนความมีวินัยตั้งแต่เด็ก
แต่จนถึงระดับหนึ่งเกรดเฉลี่ยจะไม่ได้ทำให้อนาคตของใครคนหนึ่งแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด คุณลองมองเพื่อนที่เรียนเก่งที่สุดของห้อง พวกเขามีอนาคตที่ดีมากมายกว่าคุณหรือไม่ ทัศนคติ การเรียนรู้เอาตัวรอด การเข้าสังคมต่างหากที่เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต
คำแนะนำ
คุณควรเรียนเก่งพอประมาณ อย่าทำตัวเหลวแหลกแล้วอ้างว่าไม่จำเป็นต้องเรียนก็ประสบความสำเร็จได้ คุณเรียนไม่เก่งเลย ก็อาจสอบตกไม่ได้เรียนโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยดีๆ เพื่อนร่วมห้องก็จะไม่ดี สภาพแวดล้อมโดยรวมจะแย่ไปหมด โอกาสเป็นหมอ หรืออะไรก็ตามแต่ที่ต้องเรียนเก่งๆก็แทบไม่มี ควรเรียนได้เกรดดีในระดับหนึ่ง แต่เติมพวกการเข้าสังคม การเอาตัวรอดในสังคมเข้าไปด้วย อย่าเป็นเด็กบ้าเรียนแต่ไม่รู้จักโลกภายนอก เพราะชีวิตมีอะไรมากมายกว่าเกรดเฉลี่ย
15.สภาพแวดล้อมมีผลต่อชีวิตโดยรวม
สภาพแวดล้อมที่ดี นำไปสู่ชีวิตที่ดี สภาพแวดล้อมที่แย่ นำไปสู่ชีวิตที่่ยากลำบาก หากคุณอยากมีชีวิตที่ดี คุณต้องเลือกคบเพื่อนที่ดีเสียก่อน รีบหนีออกจากสภาพสังคมที่ย่ำแย่ ที่มักมีแต่เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น จะต้องรีบนำตัวเองไปสู่สภาพแวดล้อมใหม่ๆที่สร้างสรรค์ มีแต่ผู้คนดีๆ คิดแต่สิ่งดีๆ ชีวิตคุณก็จะดีตามสภาพแวดล้อมนั้น
คำแนะนำ
พยายามคบหาคนที่เก่งกว่า และมีความคิดที่ดีมีประโยชน์ หลีกหนีจากสังคมที่มัวแต่นินทาว่าร้าย หรือพวกขี้เกียจสันหลังยาว หนีออกจากสังคมที่เอาแต่เล่นการพนัน เสพยาเสพย์ติด หรือเอาแต่เที่ยวเมาไปวันๆ ไปอยู่กับสังคมที่เป็นประโยชน์ชีวิตก็จะมีอนาคตอย่างแน่นอน
16.อย่ายอมแพ้กับชีวิต
ประสบการณ์สอนให้เรารู้ว่าชีวิตเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม กว่าจะฟันฝ่าไปถึงเป้าหมายแห่งความสำเร็จล้วนต้อนล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายรอบ ชีวิตนี้ไม่มีคำว่าล้มเหลว มีแต่คำว่าล้มเลิก หากคุณไม่ยอมซะอย่างสักวันนึงก็จะพิชิตยอดเขาได้สักวัน
คำแนะนำ
คุณควรพยายามอย่างฉลาด อย่าริอาจยอมแพ้เด็ดขาด วันนี้ปัญหาหรืออุปสรรคอาจจะดูใหญ่โต แต่นานวันเข้าก็จะค่อยๆหดเล็กลงตามความพยายามที่ไม่หยุดยั้ง อย่างไรก็ดีอย่าจมปลักกับปัญหา เพราะชีวิตไม่ได้มีหนทางสู่ความสุข ความสำเร็จเพียงแค่ทางเดียว
17.รู้จักสร้างความสุขขึ้นเอง
มนุษย์เป็นสัตว์ที่วิเศษกว่าสิ่งใด เพราะสามารถสังเคราะห์ความสุขขึ้นเองได้ จากผลวิจัยพบว่าความคาดหวังความสุขในอนาคตที่จะเกิดขึ้นนั้นผิดเพี้ยนไปเสียหมด ความสุขที่ได้มาไม่ได้ดีเลิศเลอ หรือแตกต่างจากความสุขที่มีในปัจจุบันเท่าไหร่นัก ในทางกลับกันความสุขที่เราพยายามสร้างขึ้นในปัจจุบัน ด้วยการพอใจในสิ่งที่มี กลับทำให้ชีวิตพบกับความสุขได้มากกว่า
คำแนะนำ
คุณควรจะมีความสุข และความพอใจกับปัจจุบัน แต่ไม่ใช่ว่านิ่งเฉยไม่ทะเยอทะยานเลย คุณควรมีเป้าหมายในชีวิต เพียงแค่ระหว่างที่กำลังเดินไปถึงเป้าหมายนั้น ก็ควรมองหาความสุขระหว่างทางไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่อยู่กับคนที่เรารัก
18.เรียนรู้การลงุทนใช้เงินทำงาน
การเก็บเงิน ประหยัดอดออมเป็นเรื่องที่ดี แต่หากต้องการจะสร้างความมั่งคั่งควรจะนำเงินที่เหลือแบ่งจากรายได้อย่างน้อยสิบเปอร์เซ็นต์ในแต่ละเดือนไปลงทุน เพื่อสร้างใช้เงินทำงานให้งอกเงย
คำแนะนำ
ควรเรียนรู้เรื่องการลงทุน จำพวกหุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุนในรูปแบบต่างๆที่ไม่ผิดกฎหมาย เพื่อนำเงินไปต่อยอด รู้จักความผิดพลาดจากการลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย
19.ภาพลักษณ์คือสิ่งสำคัญ
ต่อให้เก่งสักเท่าไหร่ แต่ภาพลักษณ์ดูแย่ ไม่รู้จักพรีเซนต์กับคนอื่น ก็ไร้ความหมาย เพราะไม่มีใครไปเจอเพชรอย่างคุณ เพราะคุณดูดาษดื่น หรืออาจจะคิดว่าไม่เก่งจริง คนส่วนใหญ่มองคนที่ภายนอก การเรียนรู้ที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นจึงเป็นสิ่งสำคัญ
คำแนะนำ
ควรจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดูมั่นใจ ดูเป็นคนมีความสามารถ แต่งกายดี สะอาดสะอ้าน พรีเซนต์ตัวเองในแง่บวก และสร้างตนเองให้ดูเป็นคนมีเสน่ห์ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นแบบนั้นจริง แต่ให้ท่องไว้ “ทำเหมือนว่าเป็นอย่างนั้นไว้ก่อน – Fake it until you make it”
20.ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น มีที่มาจากอดีต
สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ไม่ได้โดนฟ้าสั่งมา หรือมีกรรมแต่ชาติปางก่อนแต่อย่างใด หากล้วนเกิดจากผลของการกระทำในอดีต หากคุณอ้วน ก็เป็นเพราะคุณกินเกินจำเป็น หากคุณไม่มีเงินพอใช้ ก็เป็นเพราะคุณใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย หรือหาเงินได้ไม่มากพอ คุณสอบตก ก็เพราะคุณเตรียมตัวไม่ดีพอ ไม่ขยันอ่านหนังสือ จะเห็นว่าทุกอย่างล้วนเป็นเหตุเป็นผลเสมอ อย่าโทษคนอื่น อย่าโทษโชคชะตา คุณต้องรับผิดชอบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น 100%
คำแนะนำ
คุณควรเลิกโทษคนอื่นอย่างเด็ดขาด จงยืดอกรับผิดชอบต่อ สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเต็มภาคภูมิ ชีวิตของคุณ คุณเลือกเอง
สรุป ถึงแม้คุณจะย้อนเวลาไปบอกตัวเองในอดีตไม่ได้ แต่สิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์ในการดำเนินชีวิตข้างหน้าของคุณอย่างแน่นอน และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับคนรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ขอแค่คุณสละเวลาเพียงนิด ส่งต่อบทความนี้ให้กับพวกเขา หรือคนที่คุณรัก และห่วงใย
ด้วยความปรารถนาดีจากผม และทีมงาน Leader Wings ครับ