
Credit : flickr.com
จากบทความตอนเดิมที่ผ่านมา – PASSION INCOME คู่มือค้นหาความชอบ เพื่อมอบรายได้ที่ใช่ ตอนที่ 1
มาค้นหา Passion ของเรากันต่อค่ะ
2. ยอมรับในความเป็นเรา
มีหนังสือจิตวิทยาหลายเล่ม บอกเล่าเกี่ยวกับตัวตนของเรา ว่ามีอยู่ 3 อย่าง
1. ตัวตนที่คนอื่นมอง
2. ตัวตนที่เราสร้างขึ้น
3. ตัวตนแท้จริงของเรา
ผู้เขียน คิดว่า ข้อ 1 + ข้อ 2
เปรียบเหมือนกับเฝือก หรือหน้ากาก
ที่ปกป้องเราไว้จาก สิ่งต่าง ๆ ภายนอก
ที่เราอาจกังวลใจไปเองว่า เสี่ยงเกินไปที่จะเปิดเผย ตัวตนจริง ๆ ออกไป
หรืออาจจะใส่หน้ากากเพื่อเสริมสร้างความสวยงาม เอาใจผู้คนทั้งหลายที่มองมา
อันที่จริงแล้ว ‘เฝือก’ เป็นสิ่งจำเป็นมากยามบาดเจ็บ
ยามที่กล้ามเนื้อ หรือกระดูกอ่อนแอ แตกหัก
ใช้เยียวยา แผลภายในให้มีเวลารักษาตัวเอง
แต่อย่าลืมว่า เฝือก เป็นเพียงเปลือกนอก !
เมื่อเราหายแล้ว หรือพร้อมเปิดรับกับโลกภายนอกแล้ว
เราต้องถอดออก !
คนเราไม่สามารถมีเฝือกทั่วตัว แล้วอาศัยร่างเคลื่อนไหวอยู่ในนั้นได้
นอกจากอึดอัดแล้ว ยังไม่มีการพัฒนาใดๆ ต่อไปได้อีกเลย
ส่วนหน้ากาก ก็เป็นอีกสิ่งแปลกปลอม
ที่หลายๆ ครั้งเราจำเป็นต้องมีไว้
เผื่อเวลาคับขัน ก็หยิบมาใช้หลบหนีจากสถานการณ์ที่ไม่พึงใจ
หรืออาจมีไว้เพื่อหลอกลวงผู้อื่นให้มาหลงรัก ให้มาเชื่อถือ
โดยลืมไปว่า พวกเขาเหล่านั้นก็ล้วนมีหน้ากากด้วยเช่นกัน !
ต่อให้หน้ากากสวยงามขนาดไหน แต่ก็คือสิ่งแปลกปลอม วันยังค่ำ
หากเรายึดติดกับมัน นานวันเข้า ช่องว่างระหว่างหน้ากากกับตัวตนที่แท้จริง
ก็เชื่อมเข้าหากันมากยิ่งขึ้น..หนาแน่นขึ้น จนยากที่จะถอดออก
เมื่อใดก็ตาม ที่เรายังไม่กล้าที่จะถอดหน้ากากออก..
เมือนั้น หน้ากากจะเป็นอันตรายที่สุด
เพราะในที่สุดแล้ว หน้ากากที่เคยคิดว่า สวยงาม เลอค่า เพียงใดก็ตาม
ก็ไม่สามารถตอบโจทย์ความชอบ ความใช่ ในชีวิตเราได้เลย
คนเราหวาดกลัวกันเกินไป ในการเปิดเผยตัวเอง
แน่นอนว่า พระเจ้าไม่ได้เล่นทอดลูกเต๋า
…ทุกสิ่งที่ได้เกิดขึ้นมาแล้วล้วนมีเหตุและผลบางอย่าง
ถ้าการเปิดหน้ากากออก มันยากนัก
ยังไม่ต้องเปิดเผยตัวตนของเรา สู่โลกภายนอกก็ได้
แต่… เราต้องยอมรับมัน ให้ได้จากส่วนที่ลึกที่สุดในจิตใจ !
ถ้าคุณมีฝีมือในการย่างหมู คุณอาจเป็นเจ้าแห่งหมูย่างห่อใบตองเงินล้าน
…ไม่จำเป็นต้องเปิดร้านอาหารฝรั่งเศสในห้างหรู
ถ้าคุณ มีความสุขกับความอวบอ้วนของตัวเอง
…คุณอาจขายเสื้อผ้า ไซส์ XXL ที่ดีไซน์เองตีตลาดจีน
ถ้าชีวิตให้ ‘ส้ม’ คุณมา คุณก็ควรทำน้ำส้ม…อย่าพยายามทำบลูเบอร์รี่กรีนที !
ถ้าชีวิตให้ ‘มะละกอดิบ’ คุณมา คุณก็ควรทำส้มตำระดับตำนาน…อย่าพยายามทำตับห่านย่าง !
ถ้าชีวิตให้ เงินทองล้นเหลือ คุณก็ควรเป็นนักลงทุน ใช้ชีวิตทางธรรม และ ผู้บริจาคทาน.
…อย่าไปเล่นการเมือง เพียงเพราะอำนาจชื่อเสียงปลอม ๆ หวังให้คนอื่นนับหน้าถือตา (เกี่ยวมั้ย )
ก่อนจะลงเล่นในเกมส์ชีวิต ที่คิดว่าใช่ใด ๆ ก็ตาม
ลองจินตนาการดูว่า ขณะที่กำลังลงไปคลุกฝุ่น คลุกดิน อยู่กลางสนามนั่น
เป็นตัวเองจริง ๆ หรือคนที่ยังต้องแบกเฝือก แบกหน้ากากไปลงสนามอยู่
ถ้ายังต้องปั้นแต่งหน้ากากให้สวยงาม
และเสริมเฝือกให้แข็งโป๊ก หนาปึ้กอยู่
นั่นไม่ใช่เกมส์ ของคุณแล้วล่ะ…
สามสิ่งนี้ ใช้วัดการเป็นตัวตนแท้จริงได้ค่ะ
1 ความพึงพอใจในชีวิต ( พึงใจ + พอแล้ว )
2 ภูมิใจในความกล้าหาญ ตามหนทางของเรา ไม่ต้องตามรอยเท้าใคร
3 อิสรภาพ ที่คนในสังคมไม่เคยให้คะแนน
ขอให้ ” เล่น ” ในเกมส์ของเราค่ะ ! ได้โปรด 🙂
3.ทดลอง ทดลอง และ ทดลอง
มีน้อยคนมากที่อยู่ ๆ ตื่นขึ้นมาก็ได้พบกับ PASSION ของตัวเอง
คุณจำเป็นต้องลองผิดลองถูก
( แน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วจะผิดซะมากกว่า )
มันอาจต้องใช้เวลาเป็นปี หรือหลายปี
แต่ขอให้มั่นใจว่า ตลอดเส้นทางของการค้นหา
คุณจะค่อย ๆ มองเห็นตัวเองได้ชัดเจนขึ้น
คุณจะรู้ว่าอะไรคือจุดอ่อนของคุณ
อะไรคือสิ่งที่คุณทำได้ดีโดยที่แทบไม่ต้องพยายาม
อะไรที่คุณยังมีพลังจะทำต่อไป แม้จะเจออุปสรรคบั่นทอน
…สิ่งที่สำคัญคือ อย่ากลัวที่จะล้มเหลว
และอย่าดูถูกความสามารถของคุณเอง
ว่าจะสร้างเงินได้หรือไม่ เพราะนั่นคือ Step ต่อไป
หากคุณยังลังเลสงสัย
หรือเข็ดขยาดกับความล้มเหลวซ้ำซากในการทดลองใช้ชีวิต
ลองฟังเรื่องราว ของชายเจ้าของวลี คนนี้ค่ะ
“I am not inventing anything , my dream invented it.”
(Thomas Edison)
ใช่แล้วค่ะ นักวิทยาศาสตร์ผู้ประดิษฐ์หลอดไฟ
ที่เราท่องจำชื่อเขาได้ตั้งแต่เรียนชั้นประถม
“โทมัส อัลวา เอดิสัน”
เขาทำการทดลองเรื่องหลอดไฟ ถึง 20,000 ครั้ง
และในแต่ละครั้งที่ยังไม่ประสบผลสำเร็จนั้น
เขาไม่เคยมีความท้อใจเลย นั่นเป็นเพราะ
ความเชื่ออันทรงพลังของเขาที่ไม่เคยคิดเลยว่า
ที่ผ่าน ๆ มานั่นคือความล้มเหลว แต่เขาเรียกมันว่า
‘ การค้นพบ ทางที่ยังไม่สำเร็จต่างหาก ‘
ขอยกประโยคสนทนา มาดังนี้ค่ะ
ดอนฮวนพูดว่า : “ขอโทษด้วยที่ต้องรบกวน มิสเตอร์เอดิสัน”
“แต่เราอยากจะถามคุณสักหน่อยว่า อัจฉริยะอย่างคุณรู้สึกยังไง ในตอนที่ชาวบ้านหาว่าคุณบ้าที่พยายามประดิษฐ์ หลอดไฟ คุณรู้สึกยังไงในตอนที่คุณล้มเหลวมา 10,000 ครั้งก่อนที่จะประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าได้สำเร็จ”
มิสเตอร์เอดิสันเงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดว่า :
“I have not failed.
I’ve just found 10,000 ways that won’t work.”
“ ผมไม่ได้ล้มเหลว แต่ผมค้นพบวิธีที่ไม่ได้ผลถึง 10,000 วิธี ”
เอดิสัน เป็นตัวอย่างที่ดีมาก
สำหรับคนที่มี PASSION ที่ทรงพลัง
เขาไม่ได้เพียงแค่คิดลอย ๆ
แต่ตั้งใจทำมันอย่างเอาเป็นเอาตาย
เพื่อให้ หลอดไฟของเขา ได้เปล่งแสง แม้เพียงสักครั้ง!
…และเพียงครั้งเดียว นั่นก็เพียงพอแล้ว
ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบ
คำจำกัดความของ PASSION สำหรับ เอดิสัน
อาจคือประโยคคำพูดง่าย ๆ ของเขาที่ว่า
“I never did a day’s work in my life. It was all fun.”
ขอส่งท้ายบทความด้วยประโยคภาษาจีนนี้ค่ะ
有些人还在继续梦想成功时,
另一些人却已经醒来努力为之奋斗了。
ขณะที่คนบางคนยังคงฝันถึงความสำเร็จอยู่
คนบางคนได้ตื่นขึ้นและพยายามดิ้นรนเพื่อมันแล้ว
3 Comments
นฤเทพ พรหมเทศน์
รออ่านตอนต่อไปนะครับ
asuradech
ตอนที่ 3 สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยนะครับผม – https://www.smoothgraph.com/clients/leaderwings/article/passion-income-part-3/
asuradech
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยนะครับผม – https://www.smoothgraph.com/clients/leaderwings/article/passion-income-part-3/