ถึงวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก PayPal ระบบอีคอมเมิร์สออนไลน์ Payment ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันอยู่ในความดูแลของอีเบย์ แต่ก่อนหน้าที่จะถูกซื้อไปในราคา 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ PayPal ถูกสร้างและพัฒนาขึ้นมาโดย 3 ทหารเสือแห่งวงการไฮเทค อันได้แก่ แมค เลฟชิน, อีรอน มัสก์ และ ปีเตอร์ ธีล
ซึ่งวันนี้ เราจะพาทุกคนไปพบกับสุดยอดวิสัยทัศน์ ของ ปีเตอร์ ธีล ชายที่ได้รับการกล่าวขานกันว่า เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในรอบ 20 ปี แห่งซิลิคอนวัลเลย์ เป็น Venture Capitalist ผู้ดูแล Hedge Fund รวมถึง Founder Fund ซึ่งต้องบริหารเงินลงทุนรวมกันแล้วกว่า 2.7 พันล้านเหรียญ และที่สำคัญที่สุดเลยที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้คือ ธีล เป็น Angle Investor รายแรกที่ทุ่มเงิน 5 แสนเหรียญสหรัฐ ให้กับมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก เพื่อลงทุนใน Facebook ซึ่งอาจถือได้ว่านั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เฟสบุ๊ค มาไกลได้จนกระทั่งปัจจุบัน
และนี่ คือ 3 สุดยอดคมความคิด ของนักธุรกิจ ที่เปรียบเสมือนบุคคลสำคัญผู้ผลักดันวงการสตาร์ทอัพ ให้โดดเด่นและโลดแล่นได้อย่างมีสีสันเช่นทุกวันนี้
1.คุณค่าของบริษัท วัดกันที่ความยั่งยืน
โดยทั่วไปแล้วสำหรับธุรกิจ ผู้ประกอบการมักจะเข้มงวดกวดขัน กับยอดผลประกอบการที่เติบโตแบบก้าวกระโดด แน่นอนว่าไม่มีใครต้องการเห็นตัวเลขขาดทุนหรือผลกำไรที่ต่ำลง แต่การทุ่มเทและโฟกัสแต่เพียงผลประกอบการระยะสั้น ลงไปหมกมุ่นอยู่กับการสร้างกำไรตามกระแส นั่นเท่ากับว่าเรากำลังละเลย การสร้างแนวทางหรือจุดยืนสำหรับความมั่นคงในระยะยาวไป
ในฐานะที่ ธิล คือ ผู้สนับสนุนเงินให้กับธุรกิจเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับตัวเอง เขาจึงมองว่า บริษัทที่คุ้มค่าและคู่ควรกับการที่จะลงทุนมากที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่บริษัทที่มีการเติบโตโดดเด่นเท่านั้น แต่จะต้องเป็นบริษัท ที่มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนด้วย
ดังที่ ธีลเคยกล่าวไว้ว่า…
“For a company to be valuable it must grow and endure, but many entrepreneurs focus only on short-term growth.”
2.การสร้างแบรนด์ ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของแผนการสร้างธุรกิจ
ปัจจุบัน “การสร้างแบรนด์” และ “การสร้าง Personal Brand” เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงกันอย่างหนาหู และเป็นสิ่งที่หลายๆ กูรูแนะนำให้ทำตั้งแต่ก้าวแรก ที่เริ่มต้น Communication ออกไปสู่กลุ่มเป้าหมาย เพื่อการสร้างความรับรู้ ที่ถูกต้องที่สุดตั้งแต่แรกเห็น อันจะเป็นการสร้างการจดจำได้ดีในระยะต่อๆ ไป ซึ่งนั่นก็ถือว่าไม่ผิด
แต่ถ้าการสร้างแบรนด์ ถูกนับเป็นขั้นที่ 1 สำหรับ ปีเตอร์ ธีล ผู้เขียนหนังสือ “Zero to One” แล้ว เขาเห็นต่างออกไปว่า ยังคงมีสิ่งที่สำคัญก่อนการสร้างแบรนด์อยู่ นั่นก็คือ การหาจุดยืน หรือตัวตนของตัวเองให้พบเสียก่อน
เพราะถ้าเรายังไม่มีจุดยืนที่มั่นคง ถ้าเราไม่ได้รู้จริงๆ ว่า สิ่งที่กำลังสร้างมันอยู่นั้น เป็นตัวเรา หรือ เป็นสิ่งที่เรารักจะทำมันมากที่สุดหรือเปล่าแล้วล่ะก็ เมื่อมีอุปสรรคปัญหาเกิดขึ้น หรือเมื่อแบรนด์เดินทางไปได้สักระยะ เราอาจจะต้องพบว่า เราเดินมาผิดทางก็เป็นได้ ซึ่ง ณ จุดที่ผู้ประกอบการไม่สามารถตอบได้ว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเขายึดมั่น นั่นก็ทำกับว่าแบรนด์กำลังอยู่ในสภาวะสั่นคลอนและพร้อมทรุดพังคลืน!!!
แท้จริงแล้ว ก้าวแรกไม่ใช่เรื่องยากเท่าไร แต่ก่อนจะตัดสินใจจะก้าวแรกออกไปต่างหาก ที่เป็นสิ่งที่ยากที่สุดมากกว่า ดังนั้น Zero to One จึงเป็นสิ่งที่ทุกควรควรให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตัดสินใจทำธุรกิจ หรือ การกำหนดทิศทางวางแผนชีวิต เพราะถ้าตลอดเส้นทางที่ก้าวไป เราเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ได้ทำในสิ่งที่เรารักมากที่สุด มันจะทำให้เรามีโอกาสไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้มากที่สุดนั่นเอง
อย่างที่ครั้งหนึ่ง ธีล เคยกล่าวถึงเรื่องของการสร้างแบรนด์ไว้ว่า…
“Beginning with brand rather than substance is dangerous.”
3.อย่าปล่อยให้หมวกบัณฑิต มาปิดกั้นการเรียนรู้แห่งอนาคต
นับวันการศึกษาจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น ไม่ว่าจะไปสมัครงานที่ไหน ตำแหน่งจะก้าวหน้ายกระดับขึ้นหรือไม่ ใบปริญญาล้วนมีส่วนต่อความก้าวหน้าของทุกคนเสมอ แต่หลายๆ ครั้ง เราก็มักพบว่า ระดับการศึกษาที่สูงส่ง ล้วนมาพร้อมกับอีโก้ ที่ปิดกั้นการเรียนรู้จากสิ่งที่ตัวเองไม่รู้
ธีล เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโลกอนาคตไว้ว่า
“The Future is limitless.” ซึ่งทุกคนก็คงไม่อาจปฏิเสธว่า….
เทคโนโลยีที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจะทำให้อนาคตเราก้าวไปได้ไกลกว่านี้
ดังนั้น การปล่อยให้ใบปริญญามาปิดกั้นการเรียนรู้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการปฏิเสธโอกาสแห่งความก้าวหน้าในอนาคต ที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ยังไม่เชื่อว่าเทคโนโลยี คือกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนธุรกิจได้ เขาก็จะกลายเป็นผู้นำ ที่ตามหลังผู้คนอีกมากมาย หรืออาจจะไม่สามารถไปถึงความสำเร็จได้ ดังที่ตั้งความหวังไว้ โดยสำหรับมุมมองและวิสัยทัศน์เรื่องการศึกษานี้ ครั้งหนึ่ง ธีล เคยกล่าวเอาไว้อย่างเฉือดเฉือนคมกริบว่า
“A diploma is a dunce hat in disguise”
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงแค่ 3 เศษเสี้ยวคมความคิด ของปีเตอร์ ธีล ที่นักธุรกิจหรือใครก็ตาม สามารถดำเนินรอยตาม และนำไปประยุกต์ปรับใช้ได้ โดยสรุปเป็นหัวใจสำคัญสั้นๆ สำหรับการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ว่า
“ก่อนสร้างแบรนด์ต้องวางแผนหาแก่นแท้ อย่าเพียงแค่สักแต่สร้างอย่างไร้จุดหมาย ลดอัตตาศึกษาเทคโนโลยีตามโลกเพื่อบั้นปลาย มุ่งท้าทายความสำเร็จที่ยั่งยืน”