‘2046’ คือชื่อภาพยนต์ ของหว่องกาไว ที่จะพาเราไปยังโลกปี 2046 ปีที่ระบบรถไฟขนาดใหญ่เชื่อมโยงกันทั่วโลก แต่นานๆ ครั้งจะมีสายรถไฟขบวนหนึ่งปรากฏขึ้น เพื่อเดินทางไปยังดินแดนที่ชื่อ
“2046 ดินแดนที่ไปแล้วไม่มีใครกลับมา” ยกเว้นเขา ชายหนุ่มที่ตกหลุ่มรักหุ่นยนต์(แอนดรอยด์) สาว
นี่คือหนังเรื่องโปรดของผม พอดีผมเพิ่งเดินทางกลับจากฮ่องกง เลยคิดถึงหนังเรื่องนี้ บวกกับกระแสช่วงนี้วิธีการชำระเงินโดยไม่ใช้เงินสดกำลังมาแรง
ก็เลยจินตนาการบวกวิเคราะห์ดูจากข้อมูลปัจจุบัน ว่าอนาคตปี ค.ศ. 2046 อุตสาหกรรมหรือสิ่งของชนิดไหนบ้างจะหายไปจากโลก หรือ ถ้าเหลืออยู่คนก็ใช้น้อยมาก อาจเหลือคงไว้แต่ความคลาสสิค
1.รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมัน
แจ็ค หม่า เคยกล่าวว่า….
“….เมื่อหลอดไฟถูกคิดค้นขึ้น ไม้ขีดไฟก็ไม่ค่อยไม่มีใครใช้ เมื่อเครื่องคิดเลขถูกประดิษฐ์ ลูกคิดก็หายไป”
อดีตเมื่อรถยนต์ที่ใช้น้ำมันมา รถม้าลากก็เริ่มหายไป
กระแสรถยนต์วิ่งด้วยไฟฟ้านี่มาแรงจนหลายคนมั่นใจว่ามาจริงแน่ อยู่ที่มาเมื่อไร ช้าหรือเร็วเท่านั้น
เพราะยิ่งข้อมูลล่าสุดราคาแบตเตอรรี่รถยนต์ที่เป็นต้นทุนสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า 5 ปีที่ผ่านมา (2010-2015) ราคาได้ลดลงมาเรื่อย เฉลี่ยปีละ 13% ยังไม่รวมต้นทุนอื่นของรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันมาก
Elon Musk ซีอีโอเทสล่า ประกาศว่า…
‘เทสล่ามอเตอร์ ไม่ใช่รถยนต์ แต่มันคือคอมพิวเตอร์ที่วางบนล้อ ซึ่งผลิตโดยบริษัทซอฟต์แวร์ไม่ใช่บริษัทรถยนต์’
ถ้ามันเป็นคอมพิวเตอร์ที่วางบนล้อจริง จากประสบการณ์ในอดีตคอมพิวเตอร์ราคาแพงมาก แต่ตอนหลังถูกทำให้ราคาถูกลงมาเรื่อยๆ และทำให้ง่ายต่อคนเข้าถึงกันทั่ว
ตอนนี้ได้ข่าวว่ารถยนต์เทสล่าเองยอดจำหน่ายโตเพิ่มขึ้นเยอะมากในทั่วโลก ถ้าสามารถลดต้นทุน และลดราคาลงมาได้เรื่อย ๆ เชื่อว่าจะเห็นรถยนต์ด้วยไฟฟ้าถูกกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันแน่
อีกฟากหนึ่งรถยนต์จากฝั่งญี่ปุ่นอย่างโตโยต้า ก็มีรถยนต์วิ่งด้วยไฮโดรเจน ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้ว่าทางฝั่งญี่ปุ่นพัฒนารถวิ่งด้วยพลังงานไฮโดเจนไปมากแล้ว และยิ่งเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ อนาคตอาจเป็นคู่แข่งสำคัญของรถวิ่งด้วยไฟฟ้า
2.นิตยสารเล่ม หนังสือพิมพ์กระดาษ
โดยส่วนตัวถ้าเทียบธุรกิจหนังสือพ็อตเก็ตบุ๊คผมเชื่อว่าถึงปี 2046 พ็อตเก๊ตบุ๊คก็ยังมีคนอ่านอยู่ แต่อัตราคนอ่านอาจโดนคนอ่าน E-Book แซงไปแล้ว
แต่ถ้าธุรกิจหนังสือพิมพ์กระดาษ กับนิตยสารเล่มอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้ปิดตัวกันไปเยอะ เพราะหัวใจของมันคือ ความสดใหม่ ซึ่งสู้สื่อที่เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตไม่ได้ อย่างหนังสือพิมพ์รายวันกระดาษ เห็นชัดเจนมาก คือข่าวที่เกิดขึ้นวันนี้
หนังสือพิมพ์ต้องรอออกอีกวันหนึ่ง พอข่าวนี้ลงในหนังสือพิมพ์อาจเอ้าท์แล้ว เพราะคนรับรู้ในอินเตอร์เน็ตกันหมดแล้ว
3.โทรทัศน์
โทรทัศน์อันนี้ไม่ใช่หมายถึงสถานี ช่องทีวีนะครับ แต่หมายถึง ตัวรับสัญญาณภาพ ตอนนี้ในกรุงเทพจะเห็นคนดูละคร รายการโทรทัศน์ผ่านทางโทรศัพท์ ผ่านทางแท็ปเล็ตกันเยอะขึ้นมาก
อนาคตปี 2046 คนอาจมีอุปกรณ์อะไรสักอย่างที่ดีกว่าทีวีในปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้บางบ้านใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์แทนโทรทัศน์แล้ว
ปี 2046 เราอาจใส่แค่แว่นตาอันเดียวก็สามารถดูละคร รายการวาไรตี้ และอินเตอร์เน็ตได้หมด
4.บริษัททัวร์ท่องเที่ยว
เมื่อเดี๋ยวนี้การจองตั๋วเครื่องบินเป็นเรื่องง่ายมาก และต้นทุนต่ำกว่าเยอะ ไม่นับรวมปี 2046 เราอาจเห็นรถไฟความไวสูงเชื่อมต่อกันทั่วโลก การเดินทางรวดเร็วในราคาประหยัดจึงทำให้คนเดินทางกันมากขึ้น
เรื่องภาษาก็ไม่มีปัญหา มี App ที่ช่วยให้เราสื่อสารกับคนต่างชาติต่างภาษาได้
แล้วถ้ากลัวหลงก็ยังมีอีกหลายตัวช่วยไม่ใช่เฉพาะ Google Map ที่พร้อมจะนำทางให้เรา ส่วนเรียกรถแท็กซี่ก็ไม่ต่างกัน เผลอ ๆ มี App เดียวจัดการทุกอย่างได้หมด สามารถเที่ยวได้ทั่วโลก เผลอๆ เรียกไกด์พิเศษมาบริการได้อีก ที่พักราคาประหยัดก็ยังมี Airbnb อีก
5.พนักงานทางโทรศัพท์
เมื่อหลายปีก่อนถ้าใครตื่นเต้นกับ Siri (สิริ) ปัญญาประดิษฐที่สามารถพูดคุยภาษามนุษย์โต้ตอบกับเราได้เหมือนคนมีชีวิตจริง
แต่อาจตอบคำถามไม่ได้ทุกเรื่อง (แต่คนก็ใช่จะตอบได้หมดเหมือนกัน)
อนาคตเชื่อว่าคงมีปัญญาประดิษฐ์ที่ตอบได้เกือบครบวงจรแน่ บวกกับสมัยนี้มี Line App
คนหันไปสื่อสารกันด้วยตัวอักษรกับสติ๊กเกอร์ แทนกันมากขึ้นกว่าโทรหากันเยอะ
Peter Thiel เคยกล่าวไว้ว่า…
“คนและเครื่องจักรมีความถนัดพื้นฐานคนละแบบ คนสามารถตัดสินใจในสถานการณ์ที่ซับซ้อน แต่คนไม่เก่งทำความเข้าใจข้อมูลจำนวนมหาศาล ผิดกับคอมพิวเตอร์มันประมวลผลข้อมูลได้สุดยอด แต่มีปัญหากับการตัดสินใจขั้นพื้นฐาน ที่เป็นเรื่องที่ง่ายมาก สำหรับคน”
อนาคตเห็นเลยถ้าใครทำอยู่ในสาขาอาชีพไหน ที่ไม่ได้ใช้ความสามารถในการคิดหรือแก้ไขตัดสินใจวางแผนในสถานการณ์อันซับซ้อนได้ ใช้ข้อมูลความรู้ในการทำงาน ที่ทำซ้ำเรื่องเดิม ๆ เป็นหลัก
อาจถูกปัญญาประดิษฐแย่งงานได้
6. เงินธนบัตร กับเหรียญ
เมื่อไม่นานนี้มีข่าวว่ารัฐบาลจะมีมาตราการทางภาษี คือ ถ้าใครจ่ายด้วยเงินสด จะต้องเสียภาษี VAT 10% แต่ถ้าจ่ายด้วยระบบ E-Payment เสียแค่ 7% มาตราการนี้ถ้าออกมาบังคับใช้เมื่อไร ถึงจะยังไม่มีผลกับให้คนเลิกใช้เงินสดเลย
แต่เป็นการเร่งวันเร่งคืนให้คนเข้ามาในโลกการชำระเงินโดยไร้เงินสดมากแน่ ๆ สถานการณ์นี้จะคล้ายกับสมัยก่อนที่สายการบินที่เปิดให้จองตั๋วทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งสะดวกสะบายกว่า แต่คนยังไม่นิยมเพราะกังวนเรื่องความปลอดภัย
และคนยังไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ตเหมือนทุกวันนี้ แต่เดี๋ยวนี้น้อยมากที่คนจ่ายเงินสดเพื่อจองตั๋วเครื่องบิน ตอนนี้ใครไปบางประเทศมี E-Card ใบเดียว เพียงเติมเงินในการ์ดใช้เดินทางรถเมล์ รถไฟฟ้า เรือ จนไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อได้หมด ไม่แน่อนาคต Card แผ่นเดียวอาจเอาไว้ซื้อของได้แทนเงินสดกับเหรียญ
7.พนักงานบริการรวมไปถึงโสเภณี
เพราะมีหุ่นยนต์แอนดรอย์มาแทนที่ ในหนังเรื่อง 2046 ชายหนุ่มตกหลุ่มรักแอนดรอย์บริการสาว ทั้งที่ถูกเตือนแล้ว ในตอนแรกที่ฟังเขายังสงสัยว่าคนจะตกหลุมรักหุ่นยนต์ได้อย่างไร แต่จะด้วยความเหงา หรือ เธอมีส่วนคล้ายคนรักเก่าของเขา หรือจะเพราะเหตุผลอะไร
ไม่สามารถตอบได้ชัด ๆ เพราะบางทีความรักก็แบบนี้
ไม่เคยมีใครบอกเหตุผลได้ชัดเจน คำตอบของคำถามว่าทำไมเรารักใครสักคนจึงมัก ‘คลุมเครือ’ เสมอ
เขาตัดสินใจชวนให้เธอออกจาก 2046 ไปด้วยกัน แต่เธอนิ่งเฉย
ชายแก่คนเดิมกับที่เคยเตือนเขา บอกกับเขาว่า….
“เคยได้ยินเรื่องความเสี่อม 5 ประกาศไหม พวกเธออาจจะถนัดเรื่องบริการเป็นอย่างดี แต่พวกเธอเป็นเครื่องจักรกลและด้วยความเสื่อมของกลไก อาจทำให้พวกเธอตอบสนองช้า บางทีพวกเธออยากจะหัวเราะ แต่รอยยิ้มจะมาช้ากว่านั้นสักหน่อย บางทีเธออยากจะร้องไห้ แต่น้ำตาจะมาหลังจากนั้น ในอีกวัน”
ชายหนุ่มไม่ยอมแพ้กับเสียงเตือน ตันสินใจชวนเธออีกรอบ แต่คำตอบที่ได้รับ คือความเงียบงัน
นานวันเข้าชายหนุ่มอดตีความหมายของ ‘นิ่งเงียบ’ ของเธอ ว่าเธอไม่ได้ตอบสนองช้า แต่เธอไม่ได้มีใจให้เขา
อย่าง Peter Thiel ว่าหุ่นยนต์ หรือ ปัญญาประดิษฐ์อาจเก่งเรื่องข้อมูลที่สามารถประมวลข้อมูลได้มหาศาล แต่ไม่สามารถตัดสินใจสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้ และมีปัญหากับการตัดสินใจขั้นพื้นฐาน ที่สำหรับมนุษย์แล้วเป็นเรื่องง่าย อย่างเช่น ‘ความรัก’
(บางคนอาจเถียงว่าความรักเป็นเรื่องซับซ้อน จริงๆ เป็นเรื่องง่าย แต่คนไปทำให้ซับซ้อนมากกว่า)
เพราะหลังจากนั้น วันที่ชายหนุ่มจากไปแล้ว หนึ่งพันชั่วโมงต่อมา น้ำตาหุ่นยนต์สาวก็ไหลออกมา บางทีสมองกลของเธออาจประมวลผลจน ได้คำตอบแล้ว