ฮิลลารี คลินตัน (Hillary Clinton) ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คนที่ 67 ของสหรัฐอเมริกา เป็นภรรยาของนายบิล คลินตัน (Bill Clinton) ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 42 ของสหรัฐอเมริกา ทำให้เธอกลายเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกาไปโดยปริยาย
10 กฎเหล็ก แห่งความสำเร็จของ Hillary Clinton ฮิลลารี่ คลินตัน
จงผลักดันตัวเองขึ้นมา
นางฮิลลารีเข้าศึกษาที่วิทยาลัยสตรีเวลเลสลีย์ ต่อมาได้รับปริญญาด้านกฏหมายจากมหาวิทยาลัยเยล เธอเรียนรู้จากแม่ของเธอ ซึ่งมีวัยเด็กที่ไม่ค่อยดีนัก แต่แม่ของเธอก็ผ่านมันมาได้ แม่ของเธอสอนว่า “ไม่สำคัญว่าลูกจะล้มมาแล้วกี่ครั้ง แต่ทุกๆครั้ง ลูกจะต้องลุกขึ้นมาให้ได้”
จงเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ
ช่วงที่เธอเรียนมหาวิทยาลัยนั้น เธอท้อแท้ที่ทุกคนเก่งกว่าเธอ จนเธออยากลาออกจากมหาวิทยาลัย แม่เธอซึ่งไม่เรียนมหาวิทยาลัย สอนอีกว่า “อย่าหนีปัญหา เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีความพร้อมพอ ลูกต้องเตรียมตัวให้พร้อม และทำให้ดีที่สุด”
จงหาแรงขับเคลื่อนของตัวเอง
ก่อนหน้านี้มีครอบครัวที่ถูกบริษัทประกันปฏิเสธสนับสนุนการรักษาโรคที่แพทย์ลงความเห็นว่าควรได้รับการรักษาอย่างจริงจัง เธอเห็นว่ามันเป็นการปกครองแบบเจ้าขุนมูลนาย และมันทำให้เธอรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง เธอคิดว่า หากเราได้ช่วยใครสักคนแล้ว ความรู้สึกที่ได้รับมันดีและคุ้มค่ามาก นางฮิลลารีจึงเป็นผู้สนับสนุนมูลนิธิเด็กและครอบครัวที่ Arkansas
จงเป็นคนตรงไปตรงมา
นางฮิลลารีไม่ปฏิเสธว่าตนเองค่อนข้างเป็นคนหัวร้อน หากสิ่งที่เธอคิดว่ามันไม่ถูกต้องหรือควรได้รับการแก้ไข เธอจะไม่อายที่จะแสดงความคิดเห็นของตนเอง นั่นจึงทำให้เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่มีตำแหน่งในองค์กรให้บริการทางด้านกฎหมาย
อย่าเอาคำวิจารณ์มาใส่ตัว
คนบางคนดูถูกตัวเอง เพราะเอาคำวิจารณ์แย่ๆมาใส่ตัว แทนที่จะเอาคำวิจารณ์เหล่านั้นมาคิดเพื่อพัฒนาตัวเอง เราต้องไม่ให้คำวิจารณ์แย่ๆมาทำให้เราไขว้เขวหรือตกต่ำ เราจะต้องก้าวข้ามและเดินหน้าต่อไป
จงมีความประนีประนอม
นางฮิลลารี่บอกว่า อย่าลงเสียงให้กับนักการเมืองที่ไม่มีความประนีประนอม เพราะจะทำให้ประชาธิปไตยล้มเหลว เธอเคยหาเสียงในนิวยอร์คเกี่ยวกับการเรียกร้องความสิทธิมนุษยชน เธอกล่าวว่า “ความประนีประนอมต่อกันนำมาซึ่งความก้าวหน้า” นางฮิลลารียังมีส่วนช่วยก่อตั้งโครงการประกันสุขภาพเด็ก, การรับเลี้ยงเด็ก และการอุปถัมภ์เด็ก
จงเป็นตัวของตัวเอง
แม่ของเธอให้คำแนะนำว่า “ลูกมีทางเลือก ลูกจะเป็นนักแสดงก็ได้ เพียงแต่ลูกก็จะถูกดึงไปเล่นเรื่องของคนอื่น ไม่ใช่ชีวิตของลูกเอง ลูกต้องเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
จงเดินหน้าต่อไป
มีคำวิจารณ์มากมายพูดถึงเธอว่า ผู้หญิงไม่ควรมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่นางฮิลลารี่ไม่เอามาคิดจริงจังและทำให้เธอไขว้เขว เธอบอกว่า เธอมีฐานเสียงมากมายในนิวยอร์ค เพราะเธอทำผลงาน เธอทำในสิ่งที่เธอเคยพูดไว้ และเธอไม่เคยยอมแพ้
จงมีความเมตตา
แม่ของนางฮิลลารี่เคยช่วยผู้อพยพในด้านการดูแลเด็กเล็ก และมอบความกล้าหาญให้กับเธอให้ทำในสิ่งเดียวกัน นางฮิลลารี่บอกว่า แม่ของเธอคือแรงบันดาลใจอันแรงกล้าและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเธอ เมื่อแม่เธอยังเล็ก เธอได้รับการช่วยเหลือจากผู้อื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว นั่นเป็นแรงผลักดันให้แม่ของเธอเริ่มช่วยผู้อื่นเมื่อมีโอกาส
อย่ากลัวความท้าทาย
ในปี 1995 นางฮิลลารี่ถูกคัดค้านจากรัฐบาลและรัฐสภาไม่ให้เข้าร่วมการประชุมของ UN ที่กรุงปักกิ่ง แต่นางฮิลลารี่ไม่กลัวที่เข้าร่วมและจะเผชิญหน้าปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในผู้หญิง พร้อมกับกล่าวคำปราศรัยที่ทรงพลังว่า สิทธิมนุษยชนก็คือสิทธิของผู้หญิงเช่นกัน
ผู้หญิงคนนี้เธอสตองมาก #ผู้หญิงต้องสตอง แม้จะผ่านมรสุมมากมาย แต่เธอก็ยังยืนหยัดทำงานและสร้างคุณค่าให้กับประเทศของเธอ และโลกใบนี้ หากจะมองผู้หญิงซักคนเพื่อเป็นไอดอลในการดำเนินชีวิต ฮิลลารี คลินตัน น่าจะเป็นไอดอลผู้หญิงหลาย ๆ คน